10 สัญญาณชีวิต… ที่กำลังบ่งบอกว่าคุณกำลังเป็นโรคซึมเศร้า


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ โรคซึมเศร้า


 10 สัญญาณบ่งบอกโรคซึมเศร้า

  1. มีอารมณ์ซึมเศร้า บางคนอาจมีอารมณ์หงุดหงิด ก้าวร้าว
  2. ขาดความสนใจ ความชอบในกิจกรรมต่าง ๆ ที่เคยทำ
  3. เบื่ออาหารหรือเจริญอาหารมากขึ้น น้ำหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นมาก
  4. นอนไม่หลับ หรือนอนนานกว่าปกติ
  5. เคลื่อนไหวหรือพูดจาช้ากว่าปกติ รู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยตลอดเวลา
  6. มองโลกในแง่ร้าย รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า โดดเดี่ยว และมีความรู้สึกผิด
  7. ไม่มีสมาธิ ความจำแย่ลง และขาดการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ
  8. รอบเดือนผิดปกติ มีความสนใจเรื่องเพศลดลงหรือมากขึ้น
  9. เจ็บปวดตามร่างกายโดยไม่ทราบสาเหตุ
  10. มีความคิดที่จะฆ่าตัวตายหรือพยายามฆ่าตัวตาย ทำร้ายตัวเอง
หมายเหตุ: ต้องมีอาการ 5 ใน 10 ข้อติดต่อกันนาน 2 สัปดาห์ขึ้นไป และเป็นอยู่เกือบตลอดเวลา แทบทุกวัน
การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในคนที่เป็นโรคซึมเศร้า อาจเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปเป็นเดือน ๆ
หรือเกิดขึ้นเร็วภายใน 1-2 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับสิ่งที่มากระทบรุนแรงแค่ไหน แต่พฤติกรรมการใช้
ชีวิตประจำวันของคนที่เป็นโรคซึมเศร้าจะเปลี่ยนไปจากเดิมแน่นอน เนื่องจากความผิดปกติของสาร
เคมีในสมองเสียสมดุลส่งผลให้มีอาการป่วยทางด้านร่างกาย จิตใจและความคิด ร้องไห้บ่อยกับเรื่อง
เล็กน้อย รู้สึกเบื่อคน เบื่องาน เบื่อโลก เบื่อชีวิต คิดว่าตัวเองเป็นภาระคนอื่น กลายเป็นคนไม่มั่นใจใน
ตัวเอง ไม่กล้าตัดสินใจ หลงลืมง่ายโดยเฉพาะกับเรื่องใหม่ ๆ วางของไว้ที่ไหนก็นึกไม่ออก พูดด้วยเมื่อ
เช้าก็จำไม่ได้ ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ทำงานได้ไม่ละเอียดเพราะไม่มีสมาธิ เริ่มลางาน
ขาดงานบ่อยขึ้น ไม่อยากเข้าสังคม เก็บตัวไม่พูดคุยกับใคร อ่อนเพลีย ซึ่งคนรอบข้างมักจะไม่เข้าใจ
ว่าทำไมถึงเปลี่ยนไป เมื่ออารมณ์เศร้าหรือความรู้สึกหมดหวังมีมากขึ้น ก็จะเริ่มคิดเป็นเรื่องเป็นราวว่าจะ
ทำอย่างไร ซึ่งหากมีเหตุการณ์มากระทบกระเทือนจิตใจในช่วงนี้ก็อาจเกิดการทำร้ายตัวเองไปจนถึง
คิดฆ่าตัวตายได้
โรคซึมเศร้าสามารถรักษาให้หายได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องปฏิบัติตามแผนการรักษาของแพทย์เพื่อให้
อาการดีขึ้นและหายในที่สุด รับประทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบ เปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต และให้ความ
ร่วมมือกับนักจิตบำบัดในการรักษา ซึ่งปัจจุบันการรักษาโรคซึมเศร้ามี 3 วิธีหลักได้แก่ ยารักษาโรคซึมเศร้า
(ปรับระดับสารเคมีในสมองให้สมดุล) จิตบำบัด และการรักษาด้วยการกระตุ้นเซลล์สมอง
เราสามารถฝึกรับมือกับภาวะซึมเศร้าได้ด้วยตนเองโดยไม่ตั้งเป้าหมายการทำงานที่ยากเกินไป อย่าตัดสินใจ
เรื่องที่สำคัญต่อชีวิต เช่น การหย่า การลาออกจากงาน ในช่วงที่ซึมเศร้า บริหารจัดการเวลา ลำดับความสำคัญ
วางแผนสิ่งที่ต้องทำให้เป็นระเบียบในแต่ละวันจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้ เขียนบันทึกระบายความรู้สึกออกมาบ้าง
ออกกำลังกายผ่อนคลายความเครียดจะช่วยให้หลับได้ดีขึ้น กินอาหารได้ดี ชวนเพื่อนมาเล่นที่บ้านหรือทำ
กิจกรรมร่วมกันกับครอบครัว พฤติกรรมทั้งหมดนี้จะช่วยให้เราก้าวผ่านโรคซึมเศร้าได้

ความเข้าใจจากคนรอบข้างก็เป็นสิ่งสำคัญ อย่าคิดว่าคนที่เป็นโรคซึมเศร้าเป็นคนอ่อนแอ คิดมากเกินไป
หรือเป็นคนไม่สู้ปัญหา แต่เพราะคนเป็นโรคซึมเศร้าคือผู้ป่วย ฉะนั้นถ้าได้รับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม
ก็จะกลับมาเป็นคนที่มีอารมณ์มั่นคง พร้อมทำกิจวัตรต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้เหมือนเดิม และอย่าเพิกเฉย
ถ้าคนข้างกายของเราพูดถึงเรื่องการตายหรือไม่อยากมีชีวิตอยู่เด็ดขาด ควรรีบแจ้งแพทย์หรือนักบำบัดทางจิตทันที





ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้